โลจิสติกส์ ติดโพล เทรนด์ธุรกิจมาแรงหลังวิกฤตโควิด
New Normal จะเข้ามามีบทบาทในธุรกิจ เนื่องจากผู้บริโภคคือหัวใจหลักในการทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ ผู้ประกอบการจึงต้องติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ากำลังส่งมอบสิ่งที่พวกเขาต้องการและยอมควักเงินออกจากกระเป๋าเป็นการแลกเปลี่ยน และในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่สั่นสะเทือนระบบเศรษฐกิจ ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและเป็นเรื่องปกติในอนาคต เทรนด์ธุรกิจหลังจากนี้อาจต้องปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในที่สุดด้วย
1. ธุรกิจด้านสุขภาพ เพราะคนเริ่มให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องสุขอนามัยและสุขภาพของตนเองมากขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจึงถูกให้ความสำคัญจากเดิมที่มีจำนวนผู้ตรวจเช็คสุขภาพประจำปีต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ไม่เพียงผู้สูงอายุเท่านั้นแต่รวมไปถึงคนหนุ่มสาววัยทำงานที่อาจจะต้องคำนึงถึงสุขภาพแม้อายุยังน้อย ธุรกิจน่าจับตามองที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพอย่างอาหารคลีน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ไปจนถึงเทรนเนอร์ส่วนตัวและการออกกำลังกาย จะเป็นธุรกิจที่มาแรงอย่างแน่นอน
2. ธุรกิจร้านอาหารและเดลิเวอรี่ การเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นเวลานานมีส่วนสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคต่างออกไป ล้างความเชื่อเดิมที่ว่าร้านอาหารจำเป็นจะต้องมีหน้าร้านออกไป เพราะเราได้ถูกวัฒนธรรมการสั่งอาหารออนไลน์หล่อหลอมมาสักระยะหนึ่งแล้ว ร้านโปรดที่เคยไปนั่งทานที่ร้านประจำเพราะไม่มีให้สั่งบนแอปพลิเคชันก็ยังต้องปรับตัวให้มี “หน้าร้านออนไลน์” และเป็นพาร์ทเนอร์กับธุรกิจเดลิเวอรี่ต่างๆ รองรับกับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งในอนาคตจะมีร้านอาหารหน้าใหม่ที่เปิดขายแบบออนไลน์ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เพื่อเสนอทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค
3. กลุ่มธุรกิจ FinTech ความพยายามในการผลักดัน “สังคมไร้เงินสด” จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ไม่ใช่แค่แอปพลิเคชันจากธนาคารเท่านั้นที่สามารถชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งทำธุรกรรมผ่านมือถือ แต่เราจะเห็นว่าบริษัทหลายแห่งที่เริ่มมีฟังก์ชั่น Wallet เป็นของตัวเอง ให้ผู้บริโภคเอาเงินไปหมุนเวียนอยู่ในนั้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้จะนำมาซึ่งภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ทั่วโลก ผู้คนจะเก็บเงินไว้ใช้จ่ายแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ธุรกิจประเภทนี้อาจต้องมีบริการบางอย่าง เช่น การผ่อนชำระ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน
4. ธุรกิจด้าน E-Commerce เศรษฐกิจดิจิทัลมาไวกว่าที่นักธุรกิจคาดการณ์เอาไว้ ธุรกิจออฟไลน์ทั้งหลายจำเป็นต้องปรับตัวให้มีตัวตนบนโลกออนไลน์เพื่อความอยู่รอด อย่างไรเสีย ในปี 2021 ผู้ที่สามารถให้บริการได้ครอบคลุมกับความต้องการของผู้บริโภคได้มากที่สุดจะกลายเป็นผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า มีแอปพลิเคชันเป็นของตัวเอง พร้อมฟังก์ชั่นที่ทันสมัย ใช้งานง่าย นำเสนอบริการแบบครบวงจรแบบ One-stop service ที่เดียวจบ ตามแบบฉบับ Lazy Economy ที่ครองใจคนรักสบาย ไม่ต้องคิดเยอะ และเมื่อธุรกิจสามารถเข้าไปนั่งในใจของผู้บริโภคได้ คือ ถ้านึกถึง x ต้องนึกถึงเรา ก็เป็นการยากที่จะมีใครมาโค่นล้มได้
5. ธุรกิจด้านโลจิสติกส์ จากการเติบโตของธุรกิจ E-Commerce ส่งผลให้ธุรกิจด้านโลจิสติกส์โตตามมาติดๆ ด้วย Demand ที่สูงขึ้นนี้เองทำให้การแข่งขันในการจัดส่งสินค้าเป็นไปอย่างเข้มข้น ผู้บริโภคในยุคนี้ ไม่ต้องการรออะไรนานๆ หากคุณต้องการยอดการใช้งานที่มากขึ้น ความสะดวกรวดเร็วจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เข้าถึงได้ง่าย มีบริการรับส่งสินค้าถึงหน้าประตูบ้านกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ผู้บริโภคยังคาดหวังให้คุณส่งของได้ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใด และส่งของได้ตรงตามเวลาที่ได้ระบุไว้ซึ่งเปรียบเสมือนคำมั่นสัญญาที่คุณคงไม่อยากให้ลูกค้าผิดหวัง
6. ธุรกิจด้านโรงแรมและการท่องเที่ยว มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การถูกจำกัดเสรีภาพในการพบปะผู้คน รวมทั้งการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้เราโหยหาการมีปฎิสัมพันธ์กับโลกภายนอกเป็นอย่างมาก ทันทีที่สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ธุรกิจด้านโรงแรมและการท่องเที่ยวจะกลับมาบูมในช่วงระยะเวลาหนึ่งอย่างถึงพริกถึงขิง แต่ถึงอย่างไร อาจต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้เข้าใช้บริการในเรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยที่ยังตามหลอกหลอนไปอีกพักใหญ่
7. ธุรกิจออนไลน์ New normal จะทำให้เราได้เห็นธุรกิจนี้เติบโตมากขึ้นในปัจจุบันและอนาคต ธุรกิจออนไลน์นี้ไม่ใช่แค่การค้าขายสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเปิดการเรียนการสอนออนไลน์ หรือแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนต์ออนไลน์ ทั้งดูหนัง ฟังเพลงด้วย